แบกเป้เที่ยวเกาะล้าน 2 วัน 1 คืน ด้วยเงินคนละ 2,000 บาท

เกาะล้านยังคงเป็นทะเลใกล้กรุงเทพที่สามารถไปได้ทุกเวลาทุกเทศกาล นอกจากจะใกล้แล้วเนี่ย น้ำทะเลยังใส่ บวกกับค่าครองชีพที่ถูกกว่าทะเลภาคใต้อย่างภูเก็ตอีกด้วยล่ะ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วม่ายรู้ววว รู้แต่เพียงว่า นอกจะจะพาไปเดินเล่นบนเกาะล้านแล้วนั้น ครั้งนี้ เรายังจะพาเพื่อนๆ ไปหามุมถ่ายรูปสุดชิคตาม Location ฮิปๆ บนเกาะล้านกันอีกด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลย

DAY 1

การเดินทางมาเกาะล้านนั้นไม่ยาก หากไม่มีรถส่วนตัวก็นั่งรถตู้จาก กทม.มาได้เพียงหัวละ 200 บาทเท่านั้น รถส่งถึงท่าเรือเลย ส่วนเรื่องว่าต้องขึ้นที่ไหน อย่างไร เพื่อนๆ สามารถเช็คเอาได้ตาม google ที่อัพเดทกว่าความรู้ที่ผมมี ซึ่งความรู้ที่ผมมี ก็จะมี อนุเสาวรีย์ ฟิวเจอร์รังสิต หมอชิต และแยกบางนา แต่ที่ผมเอ่ยมาก็แทบจะหมดแล้วนะ

เสียค่ารถตู้ 200 บาท มาถึงท่าเรือบาลีฮาย ก็จ่ายค่าเรือต่ออีกคนละ 30 บาท ไม่แพงอย่างที่คิด หรือหากใครใจง่ายอยากไว ก็ Speed Boat หัวละ 150 บาทไม่ว่ากัน แต่ผมว่า เกาะล้านก็ต้อง Ferry 30 นาทีนี่แหละ Classic ที่สุดแล้ว

30 นาทีเรือขนส่งก็จะพาเพื่อนๆ มาถึงท่าเรือบนเกาะล้านครับ ซึ่งมีสองท่าด้วยกัน เลือกดีๆ นะ ท่าแรกคือหน้าบ้าน ท่าที่สองคือกระโดดตบ ท่าที่สามคื… ถุ้ย!!! เลอะเทอะ ๕๕๕ เออๆ ท่าที่สองก็ท่าเรือหาดตาแหวนนั่นเอง ซึ่งแนะนำให้ลงท่าหน้าบ้าน เพราะใกล้สุด และสะดวกที่สุด

ครั้งนี้เราจองที่พักเกาะล้านผ่าน Traveloka ได้ที่พักติดทะเลราคาย่อมเยา ที่สำคัญคือใกล้จุดสำคัญๆ บนเกาะล้านทั้งนั้น เรียกได้ว่า อยู่ใน Location ที่เก๋กู้ด นั่งกินเบียร์กันริมระเบียงที่พัก ฟังดนตรีสดจากมหารักยังได้เลย เพราะแม่งติดกัน

จริงๆ ความสามารถของ Traveloka มันมีเยอะมากครับ สามารถจองที่พักแบบ Last minute ได้ด้วย โดยการเลือกไปที่ Map Mode คือเค้าจะจับ GPS ของเรา และแสดงผลที่พักที่อยู่ใกล้เราที่สุด พร้อมบอกราคาเริ่มต้นของที่พักนั้นๆ ให้เราได้เลือกอย่างเหมาะสม และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ มีช่องทางการชำระเงินหลายช่องทางมากๆ ยังไงลองเข้าไปชมได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/

ที่พักชื่อ TeleyZe ไม่เก่าไม่ใหม่แต่ Renovate ให้ดูน่าอยู่ขึ้น ที่พักคืนละ 1,000 – 1,500 บาท แล้วแต่จำนวนคนนอน ซึ่งก็รวมอาหารเช้าให้แล้ว ถึงอาหารเช้าจะไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่ก็เถอะ ที่พักยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี

ซึ่งก่อนเที่ยวเนี่ย ก็อยากให้เพื่อนๆ ได้รู้จักเกาะล้านให้มากขึ้นอีกหน่อ เวลาจะไปไหนมาไหน จะได้ไม่ลำบาก และไม่หลงทางครับ อ่ะ แนะนำให้ปักหมุดรอก่อนเที่ยวใน google map เลย  หรือจะโหลด App Maps.Me ก็ย่อมได้

จากท่าเรือมาที่พัก มีรถรับส่งบริการฟรีของโรงแรมครับ ทั้งขามาและขากลับ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเลย มีคนช่วยยกกระเป๋าแน่นอน เอาล่ะ วันแรก ไปถึงก็คงไปไหนไม่ได้มาก เช่ารถมอไซต์ขับบนเกาะล้าน ถือเป็นกิจกรรมพื้นฐานที่ควรทำมากๆ ราคามีตั้งแต่ 200 – 400 บาท ขึ้นอยู่กับ Demand ไม่มีราคาตายตัว ๕๕๕๕

นี่ก็มาบ่อย 200 ก็เคยได้ 300 ก็เคยจ่าย แต่ถ้า 400 นี่ก่ากลับเลยนะ มันจะเกินไปแล้ว พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เราก็มุ่งหน้าไปที่หาดนวลกันเลย ซึ่งจากที่พักไปหาดนวล เรียกได้ว่า กระพริบตาแป๊บเดียว ก็ถึง แต่ต้องกระพริบตาสักร้อยครั้งพันครั้งนะ ๕๕๕ แต่ๆๆๆ….

ระหว่างทางไปหาดนวล เราเจอทุ่งดอกหญ้าข้างทาง มีมีฉากหลังเป็นวิวภูเขา ซึ่งสวยมากกกกกก สวยแบบจอดรถแทบไม่ทัน ช่วงเวลาที่เราไปคือช่วง 17.00 น. ซึ่งเราคิดว่ามัน Perfect สุดๆ ไปเลย แสงกำลังแฟรเบาๆ อย่างนุ่มนวล ไม่เชื่อไปดูภาพ

หลังจากถ่ายรูปกันเต็มอิ่ม.. อ่อ วันแรก เราเน้น Theme สีขาวครับ ทุกคนเลยจะใส่เสื้อสีขาวกัน รวมถึงตัวผมด้วย ทันทีที่ไปถึงหาดนวล ต้องบอกเลยว่า เกาะล้านเปลี่ยนเแปลงไปมาก สมัยก่อน หาดนวล คนไม่ได้มาเยอะขนาดนี้ ผมไปถึงนี่ตกใจเลย จะมืดอยู่แล้ว แต่ทำไมคนเยอะจังวะ

อ่า… แต่ก็ไม่เป็นไร พอแก่มาไม่ค่อยอยากลงน้ำเท่าไหร่ เน้นได้ภาพสวยๆ กับบรรยากาศดีๆ ก็พอ หาที่ที่ดู Private หน่อย แล้วไปถ่ายรูปเล่นกัน หรือจะเล่นน้ำก็ได้ เพราะหาดนี้ก็ถือเป็นอีกหาดหนึ่งที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว เคยจะปิดหาดจัด Party สองครั้ง แต่ไม่สำเร็จ

พรบค่ำ ก็หาไรหม่ำต่อ ครั้งนี้เราไปตลาดหน้าวัดบนเกาะล้านครับ มีของซื้อของขายกันเต็ม ก็ลงขันกันคนละ 100 – 200 บาท ซื้ออาหารทะเลมาทำกัน บางอย่างขี้เกียจปิ้งย่าง ก็ให้ร้านจัดการเลย บางอย่างอยากย่างเอง ก็เอากลับที่พัก

ซึ่งตลาดแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็น One Stop Service ทางด้านอาหารของคาวของหวานเลยล่ะ อาหารสำเร็จรูปก็มี กึ่งก็มี สดก็ผี ผักยังมี ขนมก็มี คือมีหมด ไปที่เดียวจบ แนะนำเลย ที่พักเรามีตะแกรงปิ้งย่างให้ครับ สั่งแค่ถ่านไฟเก่า เอ้ย!!! ถ่านก็พอมั้ง ๕๕๕ นั่นแหละ สั่งแค่ถ่านให้เค้าหาเตรียมไว้ แล้วก็ไปจุดไฟเผากุ้งกินกัน เป็ํนอีกกิจกรรมที่ดีงามครับ ให้เพื่อนทำให้ เรารอแดกอย่างเดียว ๕๕๕๕

ระหว่างที่กินคาว กระเพราะทางด้านหวานก็เรียกร้อง เราเดินจากที่พัก ไป Sea Space ครับ ซึ่ง Sea Space ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ผมอยากปิดร้านจัด Party แต่ก็ยังไม่ได้สักที ครั้งนี้เลยมาชิมลางบรรยากาศตอนกลางคืน อื้อหืออออ ชิลมากกกก

สำคัญสุด มื้อนี้สั่งไปสามอย่าง มี Cocktail, Honey Toast และ บิงซูมะม่วง อิดอกกกก ขอบอกว่า อันอื่นไม่เท่าไหร่ แต่บิงซูมะม่วงนี่ห้ามพลาดเลย ของวานมื้อนี้ หมดไป 745 บาท จำได้ เพราะนี่ควักจ่ายเอง ๕๕๕

หวานเสร็จ ก็ต้องเมาด้วยบรรยากาศกันต่อ เราไปจบคืนแรกที่มหารักคาเฟ่ เป็นอีกคาเฟ่หนึ่งที่ไม่ไปไม่ได้ พอเข้าไปข้างในเท่านั้นแหละ โอโหหหห คนเยอะมาก เราสั่งเครื่องดื่มกันเบาๆ เอาจริงก็ดื่มกันแค่คนละขวด เน้นฟังดนตรีสด แต่จู่ๆ ก็มีเด็กเสิร์ฟเอาออร์เดิร์ฟมาให้

ไอ่บ้าเอ้ยยยย … เจ้าของร้านจำเราได้ คือเราเคยมารีวิวเกาะล้านครั้งแรก แล้วทำให้ร้านเค้าดังเปรี้ยงไปช่วงหนึ่ง ยังไงลองดูรีวิวนี่้เลย https://www.palapilii-thailand.com/archives/115

หมดไปหนึ่งวันหรรษาบลาๆ จั๊กดี้ดิงโก้ พอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ไม่ต้องอะไรมาก แค่ได้เที่ยวกับเพื่อน กับคนรู้ใจ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว อ่ะลองมาดูรายจ่ายคร่าวๆ ของวันแรกก่อนถ้าจะเดินตามรอยเรา ขอเป็นตัวเลขกลมๆ นะ คิดง่ายดี

  • รถตู้ กทม. – พัทยา 200 บาท
  • เรือข้ามฟาก 30 บาท
  • ที่พักคืนละ 1,000 บาท (หารสอง นอนสองคน) //500 บาท
  • มอไซต์พร้อมน้ำมันคันละ 250 บาท (หารสอง นั่งสองคน) //125 บาท
  • ค่าอาหารทะเล เฉลี่ยคนละ 150 บาท
  • ค่าของหวาน เฉลี่ยคนละ 110 บาท
  • ค่าเบียร์ คนละ 80 บาท

รวมวันแรก เสียตัว เอ้ย! เสียตังไป 995 บาทเท่านั้นเอง!!!!

DAY 2

วันที่สองเรียกได้ว่าเป็นวันพร้อมกลับ ตื่นสายหน่อย แล้วพากันไปที่หาดแสมเลย กลัวคนเยอะ แต่โอโหวววว ไม่ทันว่ะ ทัวร์จีนแม่งลง พอเห็นคนเลยไม่ได้ไปนั่งเล่นที่หาดเลย รู้สึกไม่สะดวกใจ แต่หาดแสมก็ยังคงสวยงามในใจผมอยู่ดี

ซึ่งก็อย่างที่เพื่อนๆ เห็นครับ ทะเลเกาะล้านไม่ใช่เล่นๆ นะ เรียกว่าเรือลอยน้ำได้เลยน่ะ แนะนำให้ไปช่วง 9 – 10 โมงเช้าครับ จะเป็นช่วงที่ทะเลสวย และใสที่สุด อีกอย่าง คนจะไม่เยอะด้วย

อีกจุดหนึ่งที่จะพลาดไม่ได้ของเกาะล้าน คือจุดชมวิวกระเบน (อันนี้เรียกเองนะ) จริงๆ มันเป็นจุดชมวิวระหว่างหาดแสมกับหาดกับหาดเทียนแหละ จะมีศาลาให้เราได้นั่งพักดูวิวอยู่ เป็นอีกจุดที่ควรไป สวยดี

ซึ่งอีจุดชมวิวกระเบน อยู่ระหว่างหาดแสมและหาดเทียนครับ สามารถขับมอเตอร์ไซต์ขึ้นไปได้เลย หรือหากอยากจะ Trekking เบาๆ จากฝั่งขวาของหาดแสม ก็ย่อมได้

หลังจากนั้นก็ไปจุดชมวิวกังหันลม จริงๆ จุดชมวิวกังหันลมควรไปตัง้แต่เช้าตรู่ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น จะสวยมากๆ แต่คือไปพักผ่อน ขอนอนยาวๆ หน่อยเถอะ สวยดีครับจุดนี้ ก็ถ่ายกันเบาๆ ก่อนที่จะไปหาดตายายกัน

เอาล่ะ… รับรองว่าร้อนตับแตกแน่ๆ ครับ ยังไงอย่าลืมเอาครีมกันแดด แว่นกันแดดไปด้วย ส่วนใครอยากแทน เชิญตามซัมบายจร้าาาาาาา

หาดตายายถือเป็นอีกจุดหนึ่งละ ที่ผมติดต่อขอจัด Party แต่เพื่อนๆ โปรดรู้ไว้เลยว่า การจัด Party ที่เกาะล้านแม่งยากมาก ต้องทำเรื่องเยอะ สรุปเลยจัดไปแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งสนุกมากๆ นั่นก็คืองาน Backpacker Party นั่นเอง

หาดตายายครั้งนี้คนเยอะกว่าที่ผมคิดมาก แต่ไหนๆ มาแล้ว ก็ถ่ายรูปคูลๆ โพสต์ท่าชิคๆ ให้มันพอดิบพอดีกับบรรยากาศก่อนหลับบ้านหน่อยแล้วกัน อ่า ชี………..

หมดทั้งทริปนี้ ก็ไม่มีอะไรแล้วคับ ใครอยากไปไหนต่อไปได้เลย ไม่เสียตังค์เพิ่มแล้ว จะเสียเพิ่มก็แต่ค่าเรือขากลับอีก 30 บาทเท่านั้น ทริปนี้เป็นอีกหนึ่งทริปที่เรียบง่าย แต่ดูมีไสตล์และได้ภาพเปลี่ยนโปรไฟล์สวยๆ ภาพใหม่แน่นอน

ก่อนกลับเรา move ไปที่คาเฟ่สุดเก๋ ชื่อ ” พักร้อน ” คือดีงามมาก ร้านตกแต่งด้วยบรรยกาศอะไรไม่รู้ แต่ถ่ายรูปสวยสัส แล้วคือหาหารอร่อย เครื่องดื่มแบบนัวลิ้นมากๆ อยากให้เพื่อนๆ ได้ไปสัมผัส เต็ม 5 ให้ 5 เลยร้านนี้

สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขอยกยอดของเมื่อวาน 995 บาท บวกกับค่าเรือขากลับอีก 30 บาท และขารถกลับ กทม.อีก 200 บาท ก็จะเป็น 1,225 บาทเท่านั้น อ่ะ แต่เราใจดี เผื่อเหลือเผื่อขาด เผื่อคนกินเยอะ กินจุ๊ก กิจจิ๊กไปอีก 800 บาทเลย ทั้งทริปจะได้เป็น 2,000 สวยๆ ฉะนั้นแล้ว การไปเที่ยวเกาะล้าน ไปแบบแบ๊งค์พันสองใบเผลอๆ ก็มีทอนแล้ว แล้วเจอกันระหว่างทางครับ : )

Leave a Reply

*