รีวิวที่พักเกาะเสม็ด : แสงเทียนบีชรีสอร์ท – ติดหาด น้ำใส น้องไบเล่ อาหารทะเลสดอร่อย เริ่มต้นคนละ 1,550 บาท พร้อมอาหาร เช้า เที่ยง เย็น!!! 

คุณเอ้ยยยยยยย เกาะเสม็ด เสร็จทุกราย นี่เป็นประโยคที่ได้ยินมาตั้งแต่เกิด ผมนี่แม่ง อยากจะหาเจ้าของประโยคนี้มาสำภาษณ์จริง ๆ ว่าใครมันเป็นคนคิดวะ ติดหูฉิบหาย ปรบมือให้เลยครับ ซึ่งถ้าลองนับดูแล้วเนี่ย ไปเสม็ดมา 3 ครั้งก่อนหน้า เสร็จไม่เสร็จนี่ขออุบไว้ก่อน แต่ครั้งนี้ครั้งที่สี่แล้ว เสร็จแน่นอน!!! 

วันนี้ไม่ได้จะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยวรอบเกาะ หรือหาร้านเด็ด บาร์ห้ามพลาดบนเกาะแต่อย่างใด แต่จะมาแนะนำให้รู้จักกับที่พักที่หลบอยู่ในป่า ติดหาด เหมือนเป็นหาดส่วนตัว แล้วคือน้ำทะเลเค้าใสมาก สำคัญคือหาดทรายละเอียด ขาวเหมือนบินไปเที่ยวภาคใต้เลย ที่นี่คือ แสงเทียนบีชรีสอร์ท เกาะเสม็ดครับ 

ที่นี่เป็นที่พักที่ส่งต่อรุ่นต่อรุ่นมากว่า 20 ปีแล้วครับ ก็ไม่ปฏิเสธว่าเก่า แต่เป็นความเก่าที่เก๋าเอาเรื่อง เพราะรีสอร์ทนี้ผ่านมา 3 Gen แล้ว จนตกมาอยู่กับ Gen หลาน ที่เค้าได้ไอเดียจากการเดินทางท่องเที่ยวไปหลายประเทศแล้วกับนำมาพัฒนาต่อยอดให้กับธุรกิจของตัวเอง โดยเริ่มทยอย Renovate บ้านจากหนึ่งหลังเป็นสองหลัง และกำลังจะทำมันไปเรื่อย ๆ จนครบทุกหลังนั่นแหละ 

ซึ่งหากใครเคยมา ที่นี่ก็จะมีห้องพวก Superior, Deluxe, Family Room, Sea view อะไรแบบนี้ใช่ไหม ลองกลับมาใหม่ดูนะ ตอนนี้เค้ามีห้อง Panorama Ocean View with Bathtub at Balcony ซึ่งในวันนี้เอง ผมจะมารีวิวห้องนี้เป็นหลัก รวมถึงรายละเอียดที่พักโดยสังเขป พร้อมกับราคาห้องอื่น ๆ ด้วย มาเริ่มกันเลย 

Transportation 

การเดินทาง ต้องยอมรับว่า ขับรถมาเองก็ง่าย นั่งตู้มาก็ลงท่าเรือได้เลย อันนี้ขึ้นอยูกับความสะดวกด้านปัจจัยและความพร้อมของแต่ละคน ในส่วนของการนั่งรถประจำทาง ในบทความนี้ขอไม่พูดถึง รบกวนหาข้อมูลเองนะครับ แต่สำหรับคนที่เดินทางมาด้วยตนเอง ผมแนะนำแบบนี้เลย 

  1. ซื้อแพ็คกับทางรีสอร์ท 300 บาท ราคานี้มี Speed Boat ไปกลับให้ ใช้เวลาแค่ 5 นาทีก็ถึงท่าเรือเลย ไม่ต้องรอนาน ที่สำคัญ รวมที่จอดรถค้างคืนแล้วเรียบรอ้ย สำหรับการเข้าพักที่แสงบีชรีสอร์ทเกาะเสม็ด 
  2. เช่ามอเตอร์ไซต์ขับจากแสงเทียน หน้าท่าเรือเลย วันธรรมดา 300 บาท เสาร์อาทิตย์ 400 บาท/วัน การเช่ามอเตอร์ไซต์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะไปนอกรีสอร์ทต่อ ไปเที่ยวที่อื่นต่อ ผมแนะนำ แต่หากจะอยู่แค่รีสอร์ท ไม่ไปไหน ผมแนะนำนี่ 
  3. รถสองแถว เรียกให้ไปส่งที่รีสอร์ท ตรงนี้เองต้องคุยราคากับพี่คนขับครับ จะอยู่ที่ราว ๆ 100 บาท นั่นแหละ สำหรับขาไปขาเดียว หรือขากลับขาเดียวนั่นเอง แต่ตอนขากลับก็จะออกยากหน่อย ต้องจ้างรถพนักงานไปส่งเหมียนเดิม 
  4. การเดินทางจากท่าเรือไปรีสอร์ท ใช้เวลาแบบไม่จอดแวะอะไรที่ไหนเลย 15 นาที รีสอร์ทค่อนข้างอยู่ไกลนะผมว่า เรียกได้ว่า หลบมุมสุด ๆ แต่เหมาะสำหรับคนที่จะมาพักผ่อนจริง ๆ 

SANGTHIAN BEACH RESORT

ก่อนไปที่อื่น ผมจะพาไปดูรอบ ๆ ตัวที่พัก่อนว่า มันชิลขนาดไหน อันดับแรกเลยคือ บาร์หน้าที่พักครับ เป็นหาดส่วนตัวไปเลยก็ว่าได้ เพราะบริเวณนี้ นอกจากที่นี่แล้ว ก็มีรีสอร์ทเล็ก ๆ อีกสองรีสอร์ทเท่านั้น

ซึ่งตัวรีสอร์ทเองเค้ามีพวกคายัค แพดเดิลบอร์ด และกิจกรรมทางน้ำให้ยืมเล่นฟรีเลยนะ แล้วคือหาดทรายที่นี่ขาวละเอียดมาก ๆ ถ้าไม่เล่นกิจกรรมทางน้ำ ก็ดื่มค็อกเทลชิล ๆ ชมวิวทะเล หรือนอนอาบแดดเพลิน ๆ ก็ได้

ที่นี่จะมีเจ้าถิ่นชื่อเจ้าไบเล่ เหม็นหมาตัวสีดำ ขนาดใหญ่ แต่น่ารัก ไม่กัดคน นางชอบกัดของอะไรก็ได้ที่มีเสียง ถ้าจะเล่นกับมันง่ายแค่นั้นเลย แล้วคือเป็นหมาที่ชอบเล่นน้ำทะเลด้วย นั่ง ๆ อยู่ตอนไหนรู้สึกร้อน มันลงไปนอนริมหาดให้น้ำซัดเล่นเฉย ๆ เลยนี่แหละ

นอกจากนั้นยังมี Slider ที่ลากเราไปกลางทะเล แล้วให้เราเล่นน้ำกันบนโป๊ะกลางทะเลอีกด้วยนะ แต่อันนี้แนะนำว่าต้องว่ายน้ำแข็งหน่อย เพราะน้ำลึก และมีคลื่น กรณีว่ายน้ำไม่แข็ง ต้องใส่ชูชีพตลอดเวลานะครับ

และนี่ก็คือบรรยากาศบริเวณโดยรอบที่พัก คือ location มันดีมากคุณ แนะนำว่าต้องมานะ ที่สำคัญ ราคาคุ้มค่ามาก ๆ ตอนนี้มีโปรราคา 1,550 บาท/ท่าน รวมอาหารเช้าเที่ยงเย็นด้วย

ROOMs 

สำหรับห้องพัก อย่างที่บอกว่าตอนนี้มีห้องธรรมดาราคาเริ่มต้น 1,550 บาท พร้อมหาร 3 มื้อ เช้า เที่ยง เย็น ตรงนี้เองกำลังจัดโปรช่วง Rainy Season เพื่อน ๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือรายละเอียดโดยตรงได้กับทางรีสอร์ทที่: https://www.facebook.com/SangThianBeachResort

โดยผมเองไม่ได้เดินถ่ายทุกห้องให้เพื่อน ๆ ดูนะครับ ต้องบอกว่าที่นี่คิวจองล้นหลามมาก ๆ ไม่มีโอกาสได้เข้าไปถ่ายให้ดูเลย แค่จะปล่อยโดนก็ยังเกรงใจ รวมถึงมีมิจฉาชีพเยอะด้วย ยังไงให้เช็กเพจ Official หรือเบอร์ดี ๆ นะ ครับ  

เราพักห้องพาโนรามาโอเชียนวิว ต้องบอกว่าอยู่ชั้นบนสุดของรีสอร์ทในตอนนี้ ซึ่งจะต้องโดนขึ้นเขากันนิดหนึ่ง แต่ ๆ ๆๆ เค้าทำบันไดไว้ให้ ไม่ต้องห่วง ก็หอบอยู่เอาจริงแล้ว แต่พอเดินขึ้นไปบริเวณห้องแล้วละก็ สิ่งแรกที่จะต้องเห็นก่อนเลย คือวิวทะเลฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเสม็ดครับ 

ซึ่งตัวระเบียงเนี่ย จะมีอ่างอาบน้ำ โต๊ะนั่งชิลพร้อมบีนแบ็คมาให้เราได้เลย์ดาวน์นอนกันเบา ๆ แบบสบายสมอง ได้กลิ่นคลื่น กลิ่นลม กลิ่นธรรมชาติ พร้อมกับแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดมาจากใบไม้ต้นไม้นะ โหหห… นี่แหละ เค้าเรียกว่าการพักผ่อนอย่างแท้จริง 

เปิดไปในห้อง ตัวห้องจะเป็น Smart Door Lock ฉะนั้นหาดห่วงเรื่องความปลอดภัย รวมไปถึงยังมีตู้เซฟตัวจิ๋วให้เราได้ใส่ของสำคัญเวลาเราออกจากห้องไปพักผ่อนด้านนอกอีกด้วยนะ และในส่วน Facilities ก็มีรองเท้า ร่ม เครื่องอาบน้ำ อาหารต้อนรับ และอื่น ๆ ที่พอเพียงแล้ว สำหรับการเข้าพักริมทะเลแบบนี้ 

เดินเข้าไปในห้องจะพบว่ามีกระจกบานกว้างวางใหญ่กั้นแทนกำแพง ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวทะเลจากห้องนอนได้แบบ Panorama เหมือนชื่อห้องเด๊ะ ซึ่งหากไม่ต้องการวิวหรือต้องการความเป็นส่วนตัว เค้าก็จะมีม่านปิดให้เรา พอปิดนะ โทนของไฟในห้องก็จะเป็นอีกแบบ สวยงามมาก ๆ 

ทีวีที่นี่คือต่อ Netflix, Youtube ให้เรียบร้อย เป็น Smart TV จอใหญ่ เรียกได้ว่า ดูหนังเพลิน ๆ เลย ผมเองดูจบไป 3 เรื่อง งงเหมือนกัน พึ่งมารู้ตอนหลังว่า อ๋ออออ… เตียงมันดี แอร์มันเย็น และห้องมันสวยครับ เลยเพลินไปกับทุกอย่างเลย 

เตียง เครื่องนอน อาจะจไม่ดูดวิญญาณ แต่ถือว่า support การพักผ่อนของเราได้ดีระดับหนึ่งครับ ที่สำคัญคือเครื่องนอนสะอาดมาก การันตีเลย  

มาดูห้องน้ำและโซนแต่งตัว ต้องบอกว่า ตกแต่งได้อย่งาสวยงาม จริง ๆ อยากให้มี Bathtub อีกอันตั้งไว้ในห้องน้ำมาก ๆ อยากแชร์อ่างดูหนัง ถ้าได้นี่คือเลิศจริง ๆ แต่แค่นี้ก็ดีถมเถแล้วล่ะครับ และนี่ก็คือ Room Tour คร่าว ๆ สำหรับห้อง Panorama Ocean View ซึ่งเราพักห้องหมายเลข 3 นะ ห้องนี้ Range ราคาจะอยู่ที่ 5,000 – 6,000 บาท รวมอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว 

Breakfast – Lunch – Dinner 

ต้องบอกว่าอาหารเช้าที่นี่พิเศษตรงนี้ว่า ส่งให้ทานถึงห้องเลย แล้วอาหารเช้าจะมีแค่ 2 เมนู คือข้าวต้มทะเลและ American Set ซึ่งบอกเลยว่า อร่อยทุกเมนูจริง ๆ 

คือมันดีตรงที่เราตื่นเช้ามาแล้วไม่ต้องลุกไปไหน เชื่อไหมว่า ตอนเด็กมาเสิร์ฟอาหาร เรายังไม่ตื่นกันเลย นอนลืมตื่นจริง ๆ หลับสบายมาก แต่คือเรื่องเวลาเสิร์ฟ เราสามารถแจ้งที่ Front ได้เลยนะ ว่าจะให้เสิร์ฟเวลาไหน แต่พวกเรามันเป็นสายตื่นเช้า เลยเอา 8 โมงไปเลย เพราะแพลนว่าจะไปพายคายัคกันต่อ 

ในส่วนของอาหารเที่ยง ที่นี่มีอาหารหลากหลายเลย จะนั่งทานที่ห้อง หรือไปนั่งท่านที่ห้องอาหารก็ได้ ซึ่งผมแนะนำให้ลงไปทานที่ห้องอาหารครับ บรรยากาศดีมาก 

ตัวห้องอาหารเค้าจะเห็นวิวทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา แล้วน้ำทะเลเค้าก็ใสจริง ๆ นะ ใสจนอยากจะยกจานลงไปนั่งบนหาดแล้วกินกัน แต่มันร้อนและแสบตาน่าดู  

อาหารหลัก ๆ ที่นี่ผมอยากให้สั่งเป็นอาหารทะเลนะ แซ้บทุกเมนูจริง ๆ แล้วประเด็นคือสดด้วย เพราะทุกเย็น จะมีชาวประมงตกปลาหาปลามาแล้วก็เอามาส่งโดยตรงกับทางรีสอร์ทครับ ทางรีสอร์ทก็ช่วยซื้อ เพราะถือเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านและเกื้อหนุนกัน ซึ่งจริง ๆ แล้ว ทางริสอร์ทก็มีเรือออกไปหาปลาของทางรีสอร์ทเองอยู่แล้วด้วย อันนี้ผมชื่นชมจริง ๆ 

เสียดายไม่ได้ถ่ายเมนูอาหารมาให้ดู ส่วนใหญ่อาหารราคาเหมือนใน กทม. หรือร้านอาหารในเมืองทั่วไปครับ ไม่ได้แพงจนน่าตกใจหรือถูกจนงง เรียกได้ว่า สมน้ำสมเนื้อ 

ในส่วนสุดท้ายคืออาหารเย็น กรณีที่เรามาพักห้อง Panorama View นะ เราจะถูกจองโต๊ะให้อัตโนมัติเลย จะเป็น Beanbag โซนริมหาด หน้าเวที ตรงนี้บอกเลยวิวดีมาก แล้วอาหารก็คือมีแต่อร่อย ๆ บรรยากาศดี เครื่องดื่มเย็น ๆ เพลงเพราะ ๆ คือฟินจริง 

ที่พลาดไม่ได้คือ Sashimi นะ อย่างที่บอกว่า ที่นี่เค้าได้ปลามาสด ๆ ก็แร่ขายวันต่อวันเป็น Omagase เลย มีอะไรก็ขายอันนั้น ซึ่งจะตกจานละ 400++ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของปลา บอกเลยว่าฟิน 

และมีอีกหลากหลายเมนูห้ามพลาดเลย ไม่ว่าจะเป็นผัดปูนิ่ม ลูกชิ้นปลา ต้มปีกไก่ใบขมิ้น และอันที่ผมชอบอาจจะแปลกกและดูไม่เข้ากับสถานที่คือ กระเพราะหมูสับ ที่นี่อร่อยจริง  

นอกเหนือจากนั้น ตอนกลางคืนบริเวณโซนร้านอาหารจะเป็นบาร์ให้เราได้นั่งจิบชิล ๆ กับบรรยากาศแล้วคุยกับบาร์เทนเนอร์เพลิน ๆ ถือว่ารสชาติ Cocktail ที่นี่เอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ

และวันนั้นโชคดีมาก ช่อนทะเล ที่ทางรีสอร์ทจับได้ เค้าจะเก็บปลาเอาไปแร่ซาชิมิขายให้ลูกค้า ส่วนตับปลาเนี่ย ทางรีสอร์ทจะเก็บไว้ทานกันเอง ว่ากันว่าหาทานยากมาก ๆ และถ้าทำไม่เป็นก็จะคาว นางบอกว่า รสชาติเหมือนตับห่าน ลองละบอกเลยว่า โคตรอร่อย ไม่รู้จะมีโอกาสได้กินแบบนี้อีกหรือเปล่าเนี่ย

Night Performance 

ตอนดึกที่นี่ก็จะมีดนตรีสด บรรเลงให้ทุกคนได้ฟังกันครับ นักร้องนักดนตรีไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เป็นเจ้าของรีสอร์ทบ้าง คนบนเกาะบ้างทำนองนั้น เหมือนอยู่แบบเพื่อนฝูงครับ อบอุ่นดี เล่นยาวไปจนถึงสี่ทุ่มเลย 

และพิเศษคือกระบองไฟโชว์ เอาจริง เท่าที่ผมดูมาจากทั่วไทยนะ ที่นี่เป็นรองแค่เกาะเก่า Lotus Bar เท่านั้น เก่งจังอ่ะ ไม่คิดว่าบนเกาะเสม็ดจะมีนักควงกระบองไฟเก่งขนาดนี้ นี่เอามัลดีฟต้องรีบบินมาเรียนเลยนะเนี่ย เพราะไปมัลดีฟทีเรา โชว์ควงกระบองไฟนี่อนุบาลมาก 

แล้วการควงกระบองไฟของที่นี่ เค้าก็มีมาเล่นกับแขกด้วยนะ แล้วก็จะควงรอบ ๆ แขกเลย สักพักอ่ะ ถึงเดินลงไปที่หาด แล้วจัดหนักจัดเต็ม บอกเลยว่าถ้ามีพลุเป็นฉลากหลัง ที่นี่จะเลิศไปอีก 100 เท่าไปเลย 

เอาจริงเสม็ดสำหรับผมไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากขนาดนั้นครับ แต่ถ้าให้มาพักแบบนี้ ผมมานะ อยากทำกิจกรรมหน่อย ก็แนะนำให้ไปออกเรือตกปลาทำซาชิมินั่นแหละ ราคาต่อหัวหลักร้อย หรือจะดำน้ำดูปะการัง พายคายัค เล่นแพดเดิลบอร์ด ที่รีสอร์ทก็มีอุปรกรณ์ให้ฟรีเลย ถ้าไปเกาะเสม็ดรอบหน้า ลองไปที่นี่ดูครับ อาจจะหลงรักเกาะเสม็ดเหมือนผมรอบนี้ก็ได้ แล้วเจอกันระหว่างทาง 

Leave a Reply

*