14 วิธีการขึ้นเครื่องบินอย่างโปร สำหรับคนที่พึ่งเคยนั่งเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต

เอ้า… อีดอกกก มึงอย่าตกใจไป คนเราโอกาสมันไม่เท่ากัน ชีวิตประจำวันของบางคนเค้าไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบินไหมล่ะ ฉะนั้นนี่คิดว่าคิดดีแล้วที่ทำ คอนเท้นท์นี้มาสอนคนที่พึ่งเคยจองตั๋วเครื่องบินครั้งแรก ซึ่งนี่คิดว่า ถ้าครั้งนี้เป็นครั้งแรก การจองตั่วเครื่องบินเองของคุณคุณทั้งหลาย คงเป็นครั้งแรกเหมือนกัน อ่ะปรบมือให้ตัวเองเลย พวกคุณเก่งมากๆ ที่กดๆ มั่วๆ จนมีตั๋วอยู่ในมือมาได้

แต่เอาเข้าจริงๆ บางทีคนที่บินบ่อยๆ เอง ก็ยังไปมั่วๆ ตามเพื่อนอยู่เลยนะ หรือจะเถียง เอาล่ะ… วันนี้ ไมจะมาสอนวิธีการตรวจสอบตั๋วเครื่องบินที่เราได้ วิธีเช็คอิน ข้อห้าม เวลาที่ควรไปรอหน้าเกท จนจบการก้าวเท้าขึ้นไปนั่งบนเครื่องที่เราจองไว้ ว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ค่อนข้างจะเยอะนิดหนึ่ง ไปดูข้อแรกกันเลย

  • หลังจากที่เราจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะโดยสายการบินใด เว็บไซต์ไหน เราจะได้ E-mail ยืนยัน Flight บินของเรา ซึ่งนั่นคือข้อมูลสำคัญทั้งหมด ที่จะแจ้งให้เราเดินทางไปถูกที่ และบินถูกเวลา
  • การเช็คข้อมูลการบินของเรานั้น อยากให้เช็คเป็นสเต็ปสำคัญเป็นขั้นตอนดังนี้
  • วันและเวลาในการบิน ทั้งขาไปและขากลับ ถูกต้องหรือไม่

  • เช็คสนามบิน ว่าบินสนามบินใด เพราะแต่ละที่ไม่ได้มีแค่สนามบินเดียว ยกตัวอย่างกรุงเทพฯ มีสองสนามบิน นั่นก็คือ ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ถ้าเดินทางไปผิดที่ เสียเวลาและอาจตกเครื่องได้
  • มากไปกว่าเช็คสนามบิน ให้เช็ค Terminal หรืออาคารที่เราต้องนั่งรอเครื่องด้วย ว่าอยู่อาคารไหน ตัวอย่างเช่นสนามบินดอนเมือง มีสอง Terminal ซึ่ง Terminal 1 จะบินไปต่างประเทศ และ Terminal 2 จะบินภายในประเภท ในกรณีที่ไปถูกสนามบิน แต่รอผิด Terminal ก็ไม่ได้ช่วยให้เราไปถึงจุดหมายนะ

  • ตรวจสอบ Add on ต่างๆ ที่เราเลือก ว่าตรงตามที่เราต้องการไหม เช่นที่นั่งบนเครื่อง อาหาร หรือน้ำหนักกระเป๋า เป็นต้น
  • เช็คข้อมูลส่วนตัวของตัวเองอีกครั้งเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด โดยเฉพาะชื่อและสกุล รวมถึงเลขพาสปอร์ต หากไม่ตรงกับข้อมูลที่จองตั๋วไปกับทางสายการบิน เราจะไม่มีสิทธิ์ขึ้นบินโดยเด็ดขาด

  • ข้อสองเป็น Step คร่าวๆ ที่สำคัญในการเช็คข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งหากเราเช็คข้อมูลทุกอย่างเรียบร้อย แน่ใจว่าถูกแล้ว เราสามารถเช็คอินออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์เลย ซึ่งขอดีตรงนี้คือ เราไม่จำเป็นต้องไปต่อคิว Check in หน้า Counter เมื่อถึงสนามบิน เราสามารถนำตั๋ว Electronic ไปยื่นแก่ผู้ตรวจฯ หรือ Staff สายการบินนั้นๆ เพื่อเดินทางได้เลย แต่หากในกรณีที่จำเป็นต้อง Load ปลาเก๋า ข้อนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสนามบินนั้นๆ หรือสายการบินนั้นๆ ว่ามีช่องลัดให้สำหรับ Load ปลาเก๋าสำหรับผู้ที่ Check in online มาแล้วหรือไม่ แต่ทั้งนี้ การ Check in online ก็ยังมีข้อดี และได้เปรียบกว่าไป Check in หน้า Counter แน่นอน และควรทำให้เป็นนิสัย
  • หากไม่ได้เช็คอินออนไลน์ไป เราก็ต้องไปเช็คอินหน้า Counter วิธีดูว่าเราต้องไปเช็คอินที่ Counter No. อะไร ให้ดู เลข Flight ในข้อมูลที่เราจองมา อย่างเช่น Nokscoot เที่ยวบินที่จะบินไป Taipei จะขึ้นต้นด้วย XW 281 ซึ่งแต่ละสายการบิน จะมี Code หรือรหัสที่ไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องจำก็ได้ ให้เช็คที่ข้อมูลการจองของเราในแต่ละทริปนั้นๆ หลังจากเทียบ Flight บิน กับตารางบินบริเวณสนามบิน เราก็จะรู้ Counter Check in ของเราแล้ว
  • ปัญหาหลักๆ ของคนที่บินไม่บ่อย หรือนานๆ บินที จะไม่ค่อยจำว่า สิ่งไหนโหลดได้ สิ่งไหนโหลดไม่ได้ อยากให้จำข้อสำคัญตรงนี้ไว้เลยว่า กระเป๋าที่จะโหลด สิ่งเดียวที่ห้ามโหลดลงไปใต้ท้องเครื่องคือ แบตเตอร์รี่ หรือ Power Bank ส่วนกระเป๋า Carry on หรือกระเป๋าที่จะเอาขึ้นเครื่อง ห้ามนำวัตถุหรือของเหลวขึ้นเครื่อง หรือหากเป็นยา ครีม น้ำหอม ก็ห้ามเกิน 100 ml. ห้ามนำของมีคม สิ่งอันตรายต่างๆ ขึ้นเครื่อง ซึ่งตรงนี้คิดว่าทุกคนน่าจะพอเดาได้ว่าอะไรที่มันดูอันตราย จริงๆ ตรงนี้ ทางสายการบินจะแจ้งเรามาตั้งแต่เราจองตั๋วผ่านทาง e-mail เรียบร้อยแล้ว

  • หลังจาก Check in เรียบร้อย จะได้ Boarding Pass มา หรือตั๋วเครื่องบินที่เป็นใบกระดาษจริงๆ (กรณีของ Boarding Electronic) จะไม่แจ้ง Gate ไว้ และหากโชคไม่ดี Boarding Pass ที่เราได้มา ก็จะไม่แจ้ง Gate ไว้เหมือนกัน Gate คือประตูสู่เครื่องบินที่เราจะเดินทาง หากไม่มี Gate No. แจ้งไว้ เราสามารถ ดูเลข Flight เราอีกครั้ง เพื่อเทียบหา Gate No. ด้านใน หลังจากที่ผ่าน ตม.แล้ว ซึ่ง Monitors ด้านในกับด้านนอก ข้อมูลจะต่างกันอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวสับสน
  • ในช่วง ตม. หรือตรวจคนเข้าเมือง หากประเทศนั้นๆ จำเป็นต้องใช้ VISA เราจำเป็นต้องทำ หากไม่ทำคือบินไม่ได้ หรือประเทศที่ไม่ใช่ VISA ก็จำเป็นต้องมี Passport เพราะถือเป็นตัวแทนของเราที่เป็นเอกสาร หากบินภายในประเทศ สามารถใช้บัตรประชาชน ใบขับขี่ ก็เพียงพอ ซึ่งในช่วงที่เราอยู่ในโซน ตม. ห้ามถ่ายรูป ต้องถอดแว่น ถอดหมวก เพื่อยืนยันตัวตน

  • พอเข้าไปได้แล้ว นั่นถือว่าเรามีโอกาสจะได้บินราวๆ 60% เลยนะ เป็นไง ละเอียดไหม กว่าจะได้บิน เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ซึ่งพอเรามาฝั่งที่ผ่าน ตม.แล้ว สินค้าหลังจากนี้ จะเป็นสินค้าปลอดภาษีทั้งหมด สามารถ Shopping ได้กระจาย บางสายการบินมี Lodge หรือห้องพักให้กับลูกค้า ซึ่งบิน Flight เดียวกัน แต่ที่นั่งก็มีหลายเกรดเข้าไปอีก
  • เรื่องเกรดที่นั่งไปศึกษาเพิ่มเติมเอาเองนะ แต่สิ่งสำคัญที่ควรรู้มากกว่า Class ที่นั่ง คือเวลา Boarding Time สำคัญมากๆ ส่วนใหญ่จะให้มารอหน้า Gate ก่อนบิน 45 นาที เรียกได้ว่าไปรอตั้งแต่ 1 ชั่วโมงปลอดภัยสุดหากบินต่างประเทศ แต่ในประเทศบางที 30 นาที ก็ยังคุยกันได้ ไม่ควรเถลไถลจนถึงช่วงที่ STAFF แจ้ง Final Call นั่นหมายความว่า อีกไม่กี่นาที หากคุณไม่ไปแสดงตัวที่หน้า Gate คุณจะหมดสิทธิบินทันที
  • ซึ่ง Gate จะบินก่อนบิน 15 นาทีเสียส่วนใหญ่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสายการบิน และสถานที่นั้นๆ ด้วยแหละ ถ้าเอาให้ดี ควรรออยู่หน้า Gate ก่อนถึงเวลาบิน 1 ชั่วโมงจะดีที่สุด

  • หลังจาก STAFF เรียกขึ้นเครื่อง ก็ต้องยื่นตั๋วพร้อมเอกสารยืนยันตัวตน (พาสปอร์ตหรือบัตรประชาชน) ให้กับเจ้าหน้าที่ หากไม่ติดอะไร ก็สามารถไปต่อได้เลย ซึ่ง Flight บินแต่ละลำก็จะต่างกันออกไป บาง Flight สามารถเข้าเรื่องได้เลยผ่านทาง Sky Walk แต่บาง Flight ต้องนั่งบัสเข้าไป แล้วเดินขั้นบันไดไปยังตัวเครื่อง

  • ก่อนจะเข้าตัวเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ภายในเครื่องบินก็จะเช็คตั๋วเครื่องบินและเอกสารยืนยันตัวตนอีกครั้ง ก่อนที่จะอนุญาตให้เราขึ้นเครื่องได้
  • เลขที่นั่งของเครื่องบินส่วนใหญ่ จำไว้เป็น Pattern นี้ได้เลยครับ แถวหน้าสุดคือแถวที่ 1 ไล่ลงไปกี่แถวก็นับลงไปเรื่อยๆ เลย และเลขต่อถ่ายแถวคือคอลัมล์ ทุกเครื่องบินจะเรียงจากซ้ายไปขวาเป็น A B C D E F G H I J K ไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องบินลำนั้นมีกี่คอลัมล์ ยิ่งคอลัมล์เยอะ แสดงว่าเครื่องฯ ลำนั้น ใหญ่มาก
  • เดินไปถึงที่นั่งแล้ว เช็คอีกรอบ หากตรงที่ของเรา ก็สามารถนั่งได้เลย หากมีสัมภาระ หรือกระเป๋า Carry On ถ้าเป็นเภทกระเป๋าถือ หรือ Backpack เล็กๆ สามารถสอดไว้ใต้ที่นั่งเราได้ แต่หากเป็นกระเป๋า Luggage ใบเล็ก ก็นำขึ้นไว้บนชั้นวางที่หัวเราเท่านั้น

ซึ่งหลังจากนี้ ก็ถือว่าเพื่อนๆ คงจะได้บิน 90% แล้วล่ะ หากไม่เกิดเหตุการณ์อะไรที่น่าเป็นห่วง เช่นเครื่องเสียกระทันหัน เกิดการทะเลาะกันของผู้โดยสาร มีคนแอบแฝงตัวตนมาบินแทน บลาๆ คือน้อยมากที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อ่านมาถึง 14 ข้อนี้ ขั้นตอนต่อไปก็เป็นขั้นตอนของพนักงานต้อนรับบนเครื่องที่จะอธิบายเพื่อนๆ ต่อแล้วล่ะ หวังว่าจะได้รับความรู้จากบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วเจอกันระหว่างทาง

 

 

Leave a Reply

*