Site icon PALAPILII-THAILAND

The Blue Sky Resort เกาะพยาม รีสอร์ทแห่งแรกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมัลดีฟเมืองไทย

image

.: ตั้งแต่เริ่มเที่ยวก็เคยได้ยินมัลดีฟระนองมานานละ อยากรู้จริงๆ ว่ามันมีความมัลดีฟขนาดไหนถึงได้เทียบตัวเองซะเทียบเท่าทะเลท็อปไฟว์ของโลกขนาดนั้น เริ่องเล่าอยู่ใต้ภาพ จัดไป!!!

#palapilii

ทริปนี้ต้องขอบคุณ Traveloka ครับ เพราะเว็บเดียวอยู่เลย ทั้งจองที่พัก และจองตั๋วเครื่องบิน ทาง Traveloka เค้าจะมีโปรฯ ปล่อยมาตลอดครับ ทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พัก ยังไงลองเข้าไปชมที่หน้าเพจหรือหน้าเว็บพี่เค้าได้เลย ค่อนข้างจะมี Promo code มาแจกให้ลูกค้าบ่อยๆ สำหรับทริปนี้แล้วเราก็เช็คราคา ที่พักในเกาะพยามใน Traveloka ด้วยเช่นกัน ใช้งานง่ายดี เปิดเข้าไปก็เจอโรงแรม The Blue Sky Resort at Koh Payam ที่อยากไปก็อยู่ในนี้พอดีเลย จัดไปครับ

การมาระนองมาได้หลายวิธีครั

– ขับรถมาเอง
– เช่ารถตู้
– นั่งบัสราคาราวๆ 500 บาท
– และนั่งเครื่องบินมาราคาไปกลับราวๆ 3,000 บาท

แต่… ครั้งนี้ผมจองกระชั้นชิดมาก เลยทำให้การเดินทางของผม cost up ครับ เฉพาะค่าตั๋ว ปาไป 7,200 บาท และก็เพิ่งรู้ว่า จาก กทม. มาระนอง มีสายการบินเดียวเท่านั้นที่บริการ นั่นก็คือ Nok Air ครับ

พอมาถึงสนามบิน ก็ถามราคารถตู้เข้าเมืองครับ ได้ราคามา 200 บาท รู้สึกว่าแพงไป เลยขอรถชาวบ้านเค้าติดมาลงในเมืองแทนครับ ฮาๆๆ จากนั้นก็โบกรถสองแถว บอกพี่เค้าว่าไป ท่าเรือขึ้นเกาะพยาม คุณลุงคิดคนละ 15 บาทเอง ชิลโคตรรรรร

พอไปถึงท่าเรือ ก็ติดต่อเรือ Speed boat ครับ ราคาไปกลับคนละ 700 บาท ใช้เวลาราวๆ 45 นาทีก็ถึงเกาะ ระหว่างทางบรรยากศแปลกจากทะเลอันดามันที่ผมเคยสัมผัสมาก เพราะสีทะเลเหมือนฝั่งอ่าวไทยจนคิดว่าอยู่เมืองพัทยา แต่…

พอมาถึงเกาะ ความคิดนั้นค่อนข้างเปลี่ยนไปครับ น้ำทะเลทีว่าดูเขียวปี๋ กลับกลายมาเป็นเขียวคราม บวกกับบรรยากศภายในเกาะดูสงบ สงบกว่าเกาะกูดอีกนะเว้ย

ทริปนี้เรามาพักที่ The Blue Sky Resort at Koh Payamครับ พี่ๆ น่ารักมาก พอลงจากท่าเรือ ก็เอารถกอล์ฟมาช่วยรับของ แล้วก็พานั่งรถไปยังที่พัก แล้วเสิร์ฟด้วยน้ำพั๊นซ์ welcome drink เย็นๆ คลายร้อนระหว่างการเดินทาง

จากนั้นก็ check in ปกติครับ

ทริปนี้เรานอนห้อง sea view ติดหาดทรายเลย ห้องราคา 8,000 บาทครับ ราคาเหมาะสมกับสถานที่ บรรยากาศ และวิวรอบข้างมาก อย่าถามถึงเตียงว่านุ่มมั้ย ตอบได้คำเดียวว่า ดูดวิญญาณโคตรๆ

อันนี้คือวิวจากห้องพัก มองไปเห็นทะเลเลย ชิลมาก อากาศดีโคตรร
คือระดับโรงแรม ๕ ดาว เค้าก็จะมีบริการที่ดีพอสมควรครับ บริการเราดีมาก เสียอย่างเดียวคือ ที่นี่ไม่มีโทรศัพท์ในห้อง เลยถามว่าทำไมไม่มีโทรศัพท์ในห้อง พี่เค้าก็เลยบอกว่า บนเกาะระบบมันไม่เสถียร มันเคยมีแล้วติดๆ ดับๆ เลยแก้ปัญหาให้ไม่มีไปซะเลย แต่มือถือพวกเราสัญญาณยังชัดแจ๋งครับ อัพรูปอวดชาวบ้านได้ real time ไม่ต้องห่วง และนี่คือ เปลหน้าห้องพักครับ ชิบไปอีก กับ Blue Hawaii cocktail
คือระดับโรงแรม ๕ ดาว เค้าก็จะมีบริการที่ดีพอสมควรครับ บริการเราดีมาก เสียอย่างเดียวคือ ที่นี่ไม่มีโทรศัพท์ในห้อง เลยถามว่าทำไมไม่มีโทรศัพท์ในห้อง พี่เค้าก็เลยบอกว่า บนเกาะระบบมันไม่เสถียร มันเคยมีแล้วติดๆ ดับๆ เลยแก้ปัญหาให้ไม่มีไปซะเลย แต่มือถือพวกเราสัญญาณยังชัดแจ๋งครับ อัพรูปอวดชาวบ้านได้ real time ไม่ต้องห่วง และนี่คือ เปลหน้าห้องพักครับ ชิบไปอีก กับ Blue hawaii cocktail
พักผ่อน รีแล็กซ์ นวดอะโรม่า นอนหลับ ตื่นมาอีกทีบ่ายแก่ๆ ก็พากับลากคายัคไปพายเล่นครับ
อินี่เจ้าของเพจ Hitchhiker Thailand ครับ กุท้ามันว่า เมิงพายไปกลางทะเล แล้วโดดลงน้ำให้หน่อย กล้ามั้ย และนี่คือสิ่งที่มันทำครับ ๕๕๕
ทริปนี้ผมแบก drone ไปด้วยครับ จริงๆ หลังๆ มาแบกไปทุกที่เลย พยายามเก็บวิวจากอากาศรอบประเทศให้ได้มากที่สุด ตอนนี้มันก็เริ่มแต่แล้ว ถ้าได้รับการสนับสนุนจาก DJI Store Thailand จะดีมาก แฮร๋

คือแบบ ถ่ายเก็บไว้เป็นร้อยรูปครับ แล้วเด่วเราทำรายการร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้วยนะ ชื่อรายการ เย็นวันศุกร์ถึงเช้าวันจันทร์ ยังไงขอฝากรายการไว้ตรงนี้เลย ฮาๆ

อันนี้มุมมองจากกล้องมือถือของผม ตอนทีพายคายัคอยู่ คือจะว่าชิลมั้ย คงพูดอะไรมากไม่ได้ ภาพแม่งอธิบายไว้หมดแล้ว

ตกเย็นมาควรค่าแก่การสั่ง cocktail มาจิดริมสระข้างทะเลมากๆ ครับ แต่ เค้าบอกว่า อ่าวลุงดำที่นี่ พระอาทิตย์ตกสวยมากๆ งั้น pause จุดนี้ไว้ก่อน แล้วเช่ามอเตอร์ไซต์ขับกันไปดีกว่า

ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ 250 บาทครับ ก่อนไปอ่าวลุงดำ เลยมาที่ hippy bar ก่อนครับ อยู่ทีอ่าวอะไรจำไม่ได้ แต่อ่าวนี้น้ำใสครับ แล้วคือเค้าบอกว่า มาพยาม ห้ามพลาด hippy bar เอาล่ะ ปักหมุดไว้ พระอาทิตย์ตกดินเมื่อไหร่ เด่วรู้กัน
จาก The Blue Sky Resort at Koh Payam มา อ่าวลุงดำ ระยะทางไมไกลมากครับ ราวๆ ๕ กิโลเมตร แต่ทางค่อนข้างเล็ก ยังไง ก็ขับระมัดระวังกันด้วย และนี่คือภาพแรกที่ผมเห็นตอนลงจากมอเตอร์ไซต์
คือ มาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ คือต้องมาดูที่นี่จริงๆ ครับ

เอาล่ะ คากว่าเราควรจะกลับห้อง อาบน้ำ หาอะไรทาน แล้วเตรียมไป hippy bar ได้แล้ว

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาบริเวณตัวหมู่บ้านครับ หาร้านอาหารราคาบ้านๆ ทานกัน และแน่นอน ต้องเป็นอาหารทะเล
คือตอนไป hippy bar ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เสียดายมาก แบตมือถือหมด แงงงงง เอาเป็นว่า ควรค่าแก่การไปเยือนมากๆ ครับ hippy bar เจ้าของร้านเหมือน slot ครับ ทำ cocktail ช้าๆ ไม่สนใจลูกค้าเท่าไหร่ ก็กูจะทำเรื่อยๆ ของกู เมิงจะทำไมครับ ฮาๆ แต่ชอบพี่แกนะ พี่บ่าวแกดูจริงใจดี ขายไปขายมา น้ำแข็งหมด ตอบลูกค้าไปว่า ไม่ขายแล้ว ฮาๆๆ กูนิงงเลย คือจะชิลไปไหน เอาล่ะ ตื่นเช้ามาทานอาหารกัน..
ชอบแตงโมจัง หั่นสวยดี
อเมริกัน เบรคฟาสสสส ไอ่สาสสสส อาหารเช้าสัมมะคัญนะ อาๆ แดกวนไปค่ะ
พอเที่ยงเราก็ตีตัวออกมาจากเกาะขึ้นมาฝั่งครับ ถึงตัวระนองตอน บ่ายๆ พอดี และได้ยินมาว่า ที่ระนองมีแกรนแคนย่อนครับ พอมาถึง ก็ปล่อยนกบินเลย…
ที่นี่ปลาเยอะมาก เยอะไป เยอะจนน่ากลัว มองไปตรงไหนก็มีแต่ปลา..

โดดสิครับ รออัลไล แกรนแจนยอนเชียงใหม่ยังโดดมาแล้วเลย ฮาๆ

หลังจากนั้นก็ไป แช่น้ำพุร้อน ละก็ไปเขาสามสี ก่อนที่จะกลับ กทม.ครับ ทรปนี้ชิลๆ ครับ ไปเสาร์ – อาทิตย์ กับครอบครัวๆ สบายๆ เลย หวังว่าเรื่องราวและประสบการณ์ของผม จะเป็นไกด์ให้กับเพื่อนๆ ในการออกทริปครั้งต่อไปได้นะครับ

ขอบคุณครับ – แล้วเจอกันระหว่งาทาง

 

 

 

 

Exit mobile version