Site icon PALAPILII-THAILAND

Backpack เขาช้างเผือก ด้วยเงิน 1,000 บาท

Backpack เขาช้างเผือก ด้วยเงิน 1,000 บาท

:: ถ้าจะให้ผมจัดอับดับทางเดินสู่ยอดเขาในประเทศไทยที่สวยงามและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นมากที่สุด
ผมคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นที่นี่ “เขาช้างเผือก” อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีครับ

reviewed by : https://www.facebook.com/PalapiliiThailand

————————————————————————————————————————-

ถนนเส้นนี้

:: จริงๆ แล้วการเดินทางไปเขาช้างเผือก มีหลายวิธีมากๆ เลยนะครับ แต่ถ้าจะให้ผมแนะนำ
คือการขับรถมาเองแล้วพาเพื่อนๆ ขึ้นรถมาด้วยซักสามสี่คนจะดีไม่ใช่น้อย
เพราะพวกเค้าคือคนที่จะมาช่วยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายตั้งแต่ต้นจนจบทริปให้เรานั่นเอง ๕๕๕
แต่ถ้าจะให้ work สุดๆ โบกรถเลย ถูกแน่นอน ถูกถีบอะ!
หลอกๆ โบกเลยครับ คนไทยน้ำใจงามจัดตายยยย 55555

:: ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงหมู่บ้านปิล๊อค (จุด Start การเดินเท้า) มีระยะทางเกือบ 400 กิโลเมตร เ
พื่อนๆ สามารถ search หาข้อมูลการเดินทางได้ทั่วไป ผลัดกันขับกับเพื่อนๆ ก็ได้
ใช้เวลาราวๆ 5 – 6 ชั่วโมงก็ถึงอย่างสบายๆ แต่ถ้าใครขาโหด 4 ชั่วโมงก็ได้ ไม่ว่ากัน
อย่างไรก็ตาม ขอให้อยู่ในความไม่ประมาทด้วย

:: หนทางจากกรุงเทพฯ จนถึง อ.ทองผาภูมิสบายมากครับ ลาดยางมาชิลๆ ใครเติมแก็ส ก็ให้เติมตุนไว้ที่นี่เลย
เพราะข้างบนไม่มีปั้มแก๊สแล้ว หลังจากนี้ถนนจะเต็มไปด้วยความทรหดคดโค้ง
ผมไปมาล่าสุดทางนิเหี้_มากๆ ถนนขรุขระโคตรๆ บางช่วงถนนแตกข้างทาง หล่นลงไปคือเหวกับเหว
ถนนจะลื่นซะส่วนใหญ่เพราะป่ายังดูดมสมบูรณ์จนต้นไม้ใบหญ้าข้างทางล้ำถนนเข้ามาเกินงามเลยหล่ะ
เอาเป็นว่า ระยะทางจาก อ.ทองผาภูมิไปหมู่บ้านปิล๊อคแค่ 60 กิโลเมตร
แต่จะต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงหรือถ้าใครรักรถคงจะสองชั่วโมงอย่างแน่นอน

:: ก่อนเข้าหมู่บ้านจะต้องจอดที่ อช.ทองผาภูมิก่อน เพื่อไปรับรู้เงื่อนไขและจ่ายค่าผ่านทางต่างๆ
(เราจะต้องจองมาก่อนล่วงหน้า 7 วันตามที่อุทยานกำหนด) ไม่ว่าจะเป็นค่าขึ้นเขา ค่าเข้าอุทยาน
ค่ากางเต็นท์ข้างบน รวมไปถึงค่านำทางอีกด้วย โดยค่าใช้จ่ายหลักๆ ก็จะมีราคาประมาณนี้

1.    ค่าเข้าอุทยาน 30 บาท
2.    ค่าเอารถเข้าอุทยาน 40 บาท
3.    ค่ากางเต็นท์ 30 บาท
4.    ค่านำทาง 1,200 บาท (นำได้ 10 คน)
5.    ค่าลูกหาบคนละ 1,100 บาท (2 วัน 1 คืน)

สำหรับผมผมตัดค่าลูกหาบทิ้งไปเลย เพราะการขึ้นเขาช้างเผือก
มันไม่ได้ยากเยนอะไรขนาดที่จะต้องให้ใครมาแบกของให้เรา แบกขึ้นไปเองภูมิใจกว่าเยอะ

:: เมื่อเห็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นแล้ว เพื่อนๆ คิดว่าควรมาคนเดียวหรือลากเพื่อนขึ้นรถมาด้วยหละครับ
ผมจะลองคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ก่อนที่จะขึ้นไปพิชิตเขาช้างเผือกให้เพื่อนๆ
ได้เห็นงบประมาณโดยคิดเงื่อนไขที่ 10 คน ตามที่อุทยานได้กำหนดมาให้

1.    ค่าแก๊สรถยนต์ (LPG) ไปกลับเฉลี่ยน 700 กิโลเมตร (คิดที่ 2.5 กิโลลิตร)
ราคาจะอยู่ที่ 1,750 บาท ตีให้เลย 2,000 บาท ขับไปเองไปกันคันละ 5 คน ก็ตกคนละ 400 บาท (ต้องมีรถยนต์ส่วนตัว)
2.    ค่าขึ้นเขา 30 บาท/คน
3.    ค่ากางเต็นท์นอนบนเขา 30 บาท/คน
4.    ค่านำรถเข้าอุทยานฯ 40 บาท/คัน หารกัน 5 คน ตกคนละ 8 บาท (แต่ไม่ต้องหารก็ได้มั้ง)
5.    ค่านำทางของเจ้าหน้าที่ 1,200 บาท/10 คน เมื่อหารกันจะตกคนละ 120 บาท
6.    ค่าเสบียงอาหารเฉลี่ยวันละ 100 บาท (คิดที่ 2 วัน) จะตกที่ 200 บาท
7.    ค่าอื่นๆ คนละ 200 บาท

เมื่อเอาแต่ละรายการมารวมกัน เราก็จะเห็นตัวเลขสำหรับทริปสั้นๆ ทริปนี้
เอาหละ มาบวกให้เห็นกันไปเลยดีกว่าว่างบสำหรับการขึ้นเขาช้างเผือกจะมีราคาเท่าไหร่กัน

:: 400 + 30 + 30 + 8 + 120 + 200 + 200 ::
—– รวมเป็นเงิน 888 บาทถ้วน (แปดร้อยแปดสิบแปดบ้านถ้วน) —–

หึหึ เป็นไงหล่ะ อึ้งกันไปเลยหละสิ!!
(ต่อให้เปลี่ยนเป็นรถน้ำมันไม่ใช้แก็ส ราคาก็จะอยู่ที่บวกลบ 1,000 บาท ไม่หนีไปไหนแน่นอน)

————————————————————————————————————————-

บ้านปิล๊อค

:: จากตัวอุทยานมาถึงหมู่บ้านปิล๊อคก็ใช้เวลาไม่นานครับ เพราะระยะห่างกันเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น
ก่อนถึงหมู่บ้านราวๆ 2 – 3 กิโล จะมีจุดชมวิวสวยๆ อยู่ที่หนึ่งชื่อเนินช้างศึก ยั
งไงถ้ามีเวลาแวะก็อยากให้แวะกันครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ถนนไม่โอเคเท่าไหร่ครับ
เพราะสมัยก่อนบริเวณนี้เป็นเหมืองหินมาก่อน ทางเลยมีแต่หินกับหิน หินที่ว่านิคือหินจริงๆ นะครับ
ยังไงไปเดี่ยวก็เห็น จากปากซอยจนไปถึงเนินช้างศึกราวๆ 3 กิโลเมตรครับ

:: รถผมคงเก่ามันขึ้นไปไม่ถึงครับ จะมีจุดๆ หนึ่งที่เป็นทางขึ้นดิ่งตรงยาวเลย
รถผมเก่าแล้วขึ้นไปไม่ไหวจริงๆ ต้องจอดไว้ข้างทางแล้วโบกรถคันอื่นขึ้นไปชมวิวข้างบน

:: วิวข้างบนจะเห็นตัวหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านครับ จะเห็นทิวเขาที่สลับซับซ้อนสวยงามมาก
สมัยก่อนตรงนี้เป็นป้อมปราการของทหารในช่วงที่ยังมีสงครามกันอยู่ ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีมากๆ
ช่วงที่ผมไปหมอกหนาไปหน่อย เลยเห็นวิวไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่
แต่ก็คุ้มค่าครับ ถือเป็นวิวแรกที่สวยงามของการเดินทางครั้งนี้

:: เดินทางมาถึงหมู่บ้านปิล๊อคก็หาที่จอดรถซะนะครับ เพราะทางเข้าหมู่บ้านไม่เหมาะที่จะเอารถไปจอดเท่าไหร่
ผมแนะนำให้ขับเลยไปนิดหนึ่งแล้วไปจอดไว้หน้าโรงเรียน หรือถ้าไม่ซีเรียสก็จอดข้างทางไปเลยครับ
แล้วรีบเก็บข้าวของสัมภาระเตรียมพร้อมที่จะขึ้นหลังช้างกันได้แล้ว

:: ในหมู่บ้านปิล๊อคมีร้านเก่าแก่อยู่ไม่กี่ร้านหรอกครับที่นักท่องเที่ยวจะไปใช้บริการอาหารเช้าหรือกาแฟร้อนกันก่อนขึ้นเขา
ถ้าเป็นร้านอาหารก็ต้องเป็นร้านพี่หน่อย ถ้าเป็นร้านนั่งชิลก็ต้องเป้นร้านพี่แอ๊นท์ (Coffe in pilok)
ยังไงก็ลองไปชิมกันดู รับรองจะไม่เสียใจ

:: เมื่อเราใช้เวลาส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงคราวที่เราจะต้องเตรียมพร้อมลุยเขากันจริงๆ แล้วหล่ะครับ
ที่หมู่บ้านจะมีร้านค้าร้านใหญ่อยู่ร้านเดียว ร้านนั้นคือจุดรวมพลของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่อุทยาน
รวมไปถึงเป็นสถานที่หาซื้อข้าวของ เสบียงอาหารก่อนขึ้นเขาอีกด้วย เมื่อทุกคนพร้อมก็ให้ไปหาเจ้าหน้าที่บริเวณนั้นเลย
พร้อมเอาบัตรที่ได้จากตัวอุทยานฯ มาโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดู ว่าถูกต้องตามเรื่องราวที่เราคุยกันไว้รึป่าว
และเมื่อทุกอย่างพร้อม การเดินทางครั้งนี้ก็จะเริ่มขึ้น…

————————————————————————————————————————-

เขาช้างเผือก

:: หลังจากนี้จะเป็นบรรยากาศเส้นทางการเดินขึ้นเขาช้างเผือกที่ผ่านสายตาและเลนส์จากกล้องของผมนะครับ
ปล่อยให้ภาพบรรยายตัวของมันเองแล้วกัน…

————————————————————————————————————————-
หลังช้าง

:: เวลามาตรฐานของการขึ้นเขาช้างเผือกอยู่ที่ 4 ชั่วโมงสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป
ซึ่งมีระยะทางในช่วงแรกประมาณ 7 กิโลเมตร จุดแรกที่เราจะไปคือ Base Camp ครับ
พอเราขึ้นไปถึง Base Camp ก็รีบหาที่กางเต็นท์ หา Location เหมาะๆ เลยนะครับ
สำหรับผมผมแนะนำให้จองในที่ต่ำๆ เพราะตอนกลางคืนลมจะแรงมาก บางเดือนแรงจนกระทั่งไม่ต้องนอนกันเลยหละ
และก็ไม่ต้องกลัวว่าไปเขาช้างเผือกจะไม่เห็นหมอก 1,000 เปอร์เซ็นสำหรับการเห็นหมอกบนเขาช้างเผือกครับ

:: ระหว่างนี้เค้าจะไม่ให้เราขึ้นไปต่อครับ เราต้องนอนรอเจ้าหน้าที่จนกว่าจะได้เวลาที่สมควร
ซึ่งเวลานั่นคือ 4 โมงเย็น เป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่จะพาเราขึ้นไปจุดหลักสำคัญอย่าง สันคมมีด หลังช้าง และยอดสุดของเขาช้างเผือก
ซึ่งจุดนี้จะเป็นช่วงที่สองของการเดินทาง ซึ่งเป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตรสั้นๆ ที่คุณจะไม่มีวันลืม…

” สั น ค ม มี ด “

https://www.facebook.com/video.php?v=774141719346276&set=vb.339207546173031&type=2&theater

” ห ลั ง ช้ า ง “

https://www.facebook.com/video.php?v=774777052616076&set=vb.339207546173031&type=2&theater

————————————————————————————————————————-
การเดินทางครั้งนี้

:: อยากให้เตรียมไฟฉายไปด้วยคนละกระบอก เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่กลับจากช่วงที่สองช้ากว่าปกติ
ฟ้าอาจจะมืดจนทำให้มองไม่เห็นทางลง อย่างไรก็ตามอยากให้ทำเวลากันให้ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
พอเราลงมาจากช่วงที่สอง (ช่วงสันคมมีด หลังช้าง ยอดเขาช้างเผือก) บางกลุ่มก็มาทานอาหารที่ตัวเองทำเตรียมไว้
หรือไม่ก็ช่วยกันทำอาหารกันสดๆ ตรงนั้นเลย ตรงนี้ขอไม่แนะนำอะไรนะครับ ขึ้นอยู่กับความสามารถและแรงที่เหลือของแต่ละกลุ่ม
แต่เอาเป็นว่า ใช้เวลาข้างบนนั้นให้คุ้มค่าที่สุด ให้เหมือนกับว่ามันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต

:: ปกติแล้วเจ้าหน้าที่จะพาลงเขาตั้งแต่ช่วงเช้าครับ เจ็ดโมงเช้าเป็นเวลามาตรฐาน
นักท่องเที่ยวทั่วไปจะใช้เวลาลงเขาประมาณ 3 ชั่วโมง เดินกลับทางเดิมเลย
เมื่อเราเดินลงมาถึงหมู่บ้านปิล๊อค หากมีแรงเหลืออยากจะเที่ยวต่อ ย่อมมีครับ
และสถานที่เที่ยวสำคัญในเมืองแห่งนี้คงจะหนีไม่พ้น “เหมืองสมศักดิ์” และ “น้ำตกจ๊อกกระดิ่น”
มาถึงตรงนี้แล้ว อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนเที่ยวกันอย่างมีความสุข อยู่ในความไม่ประมาท
และกลับบ้านกันอย่างปลอดภัยทุกคนนะครับ

ขอบคุณครับ

ภูวนาท  ทานะ

#Below5000THB

Exit mobile version